เปิดภาพ “รถไฟลอยน้ำ” รอบปฐมฤกษ์สัปดาห์แรกของปี กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

เปิดภาพบรรยากาศ “รถไฟลอยน้ำ รอบปฐมฤกษ์ในสัปดาห์แรกของปี” ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

วันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน 65 มีแถลงการณ์ว่า ขบวนรถพิเศษ นำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีสถานีต้นทางจากหัวลำโพง จังหวัดกรุงเทพมหานคร และสถานีที่หมายในแหล่งท่องเที่ยวรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางสัมผัสกับเส้นทางท่องเที่ยว “รถไฟลอยน้ำ หนึ่งเดียวของประเทศไทย” ในทุกๆวันเสาร์ และอาทิตย์ ตลอด พฤศจิกายน 2565 – ม.ค. 2566 โดยเริ่มรอบปฐมฤกษ์ของปีทั้ง 2 วันที่ผ่านมา ต้องลากยาวถึงวันละ 17 โบกี้ แต่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวัน จากเดิม วันละประมาณ 1,200 คน เหลือเพียงแค่วันละ 700-800 คน ต่อวัน เพื่อให้เป็นไปตามวิธีการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ทั้งนี้ ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะเปิดให้บริการแบบเช้าไปเย็นกลับ ซึ่งในปีนี้ได้ระบุจัดในทุกวันเสาร์ และอาทิตย์

ตลอดพฤศจิกายน 2565 – ม.ค. 2566 รวม 24 วัน เพื่อช่วยส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวได้ตามแผนการของรัฐบาล ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจัดกระจายรายได้ สร้างความแข็งแรงสู่เศรษฐกิจรากฐาน และชุมชนให้กลับมามีความแข็งแรงจีรังยั่งยืน

ซึ่งขบวนรถไฟจะหยุดในจุดสำหรับเพื่อชมวิว เป็นเวลา 20 นาที ให้นักท่องเที่ยวลงถ่ายภาพ ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญของทิปนี้ ด้วยเหตุว่าเป็นทริปพิเศษ ไปสู่บรรยากาศการท่องเที่ยวแบบวิถีชีวิตชาวเขื่อน และสนุกสนานกับขบวน “รถไฟลอยน้ำ” ที่ทอดยาวข้ามไปบนอ่างเก็บน้ำ เหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นับเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ ของการรถไฟไทย

เปิดภาพลอยน้ำ

ทั้งนี้ ทางการรถไฟ ยังให้โอกาส ให้นักท่องเที่ยวได้ แวะลงเลือกซื้อสิ้นค้า ชิม ช้อป สินค้าพื้นเมือง OTOP

ซึ่งมีทั้งอาหาร ของฝาก สินค้าชุมชน ของพื้นบ้าน บริเวณชานชาลา ที่สถานีบ้านโคกสลุง (โคก-สะ-หลุง) เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวชุมชนในระยะนี้ เป็นเวลา 30 นาที แล้วหลังจากนั้นขบวนรถไฟก็จะเดินทางกลับมายังสถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมต่างๆบริเวณพื้นที่โดยรอบของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยขบวนรถไฟเที่ยวกลับ จะออกมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในเวลา 15.30 น.

สำหรับความเป็นมาขบวนรถไฟลอยน้ำ เดิมเป็นรางรถไฟสายกรุงเทพ บัวใหญ่ หนองคาย อยู่ในบริเวณลุ่มน้ำป่าสักในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และถัดมาพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นถูกพัฒนาเป็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อใช้เก็บกักน้ำ ปรับปรุงแก้ไขความทุกข์ร้อนของพสกนิกร พร้อมกับมีการสร้างรางรถไฟยกระดับขึ้นเหนือน้ำเพื่อใช้เดินทางไปยังจังหวัดต่างๆได้ ซึ่งเมื่อขบวนรถไฟวิ่งลัดไปตามขอบของอ่างเก็บน้ำ และมองออกไปนอกหน้าต่างจะดูคล้ายกับรถไฟแล่นไปบนผิวน้ำ ขบวนรถไฟนี้จึงได้ชื่อว่า “รถไฟลอยน้ำ”